โดยปกติทั่วไปการทำฝ้าเพดานมักนิยมใช้ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบมากที่สุด  เพราะง่ายต่อการติดตั้ง และมีความเรียบร้อยสวยงามสามารถตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ  ฝ้าเพดานฉาบเรียบในปัจจุบันนิยมใช้โครงเคร่าเป็นโครงเหล็กชุบสังกะสี  และมีอุปกรณ์การติดตั้งตามระบบการติดตั้ง ส่วนแผ่นที่ใช้ยิงติดบนฝ้านั้นส่วนมากจะใช้เป็นแผ่นยิปซั่ม  โดยทั่วไปมีความหนาประมาณ 9 มม. ในการทำ

 งานฝ้าเพดานฉาบเรียบที่นิยมตกแต่งมีดังนี้

     1. ฝ้าเพดานหลุม คือ การยกระดับฝ้าเพดานให้มีความสูงมากกว่าระดับเดิม โดยทั่วไปนิยมยกฝ้าเป็นหลุมกันมาก เพื่อเพิ่มพื้นที่ความสูงของเพดานให้มีความสูงมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วความสูงของระดับฝ้าไม่ควรมีความสูงจากพื้นน้อยกว่า 250 ซม. แต่ในปัจจุบันความสูงของฝ้าจะมีความสูงมากกว่า เพื่อให้พื้นที่ภายในบ้านมีความโล่งและโอ่โถงมากกว่าเดิม

     2. ฝ้าดรอป คือ การทำฝ้าเพดานฉาบเรียบให้มีความต่ำลงมาจากระดับฝ้าเดิม การดรอปฝ้านั้นมักใช้กับฝ้าเพดานที่มีความสูงจากระดับพื้นค่อนข้างมาก มักใช้ในบริเวณโต๊ะทานข้าวหรือห้องรับแขกที่ต้องการความสวยงามของฝ้าเพดาน ส่วนมากการดรอปฝ้าจะใช้ในกรณีที่ไม่สามารถทำฝ้าเพดานหลุมได้ เช่น ติดคานบนเพดานหรือติดในเรื่องของงานระบบต่างๆ เช่น ระบบแอร์หรือระบบไฟฟ้า

     3. ฝ้าหลืบซ่อนผ้าม่าน หรือสเต็ปรางม่าน คือ การทำฝ้าหลุมไว้บริเวณส่วนด้านของหน้าต่าง เพื่อที่จะซ่อนรางผ้าม่านให้มีความรู้สึกว่าม่านถูกซ่อนอยู่ในกล่อง มักใช้กับงานตกแต่งภายในที่ต้องการการบังแสงของผ้าม่าน ไม่ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาในบ้านได้และยังดูสวยงามอีกด้วย

     4. ฝ้าหลือบซ่อนไฟ หรือสเต็ปรางม่าน คือ การทำฝ้าที่มีระดับต่างกัน มีส่วนฝ้าส่วนล่างยื่นออกมาเพื่อรับรางนีออน และมีบังไฟตัวนอก เพื่อบังหลอดนีออนเอาไว้ ปัจจุบันนิยมใช้ เนื่องจากมีความสวยงาม ดูหรูหรา

     5. การตกแต่งฝ้าด้วยวัสดุอื่นๆ การตกแต่งบ้านนั้นไม่จำเป็นว่าการตกแต่งฝ้าเพดานจะใช้ฝ้าฉาบเรียบอย่างเดียว เราอาจใช้วัสดุอื่นๆ เข้ามาตกแต่งเพิ่มเติมได้ เช่น ระแนงไม้ สแตนเลส แผ่นพลาสติก อะคริลิค อลูมิเนียม หรือวัสดุต่างๆ ตามที่ผู้ออกแบบสามารถตกแต่งได้ตามต้องการ

     นอกจากการทำฝ้าตกแต่งแล้วนั้น การออกแบบในเรื่องของไฟแสงสว่างที่ใช้ในการตกแต่งฝ้าก็สำคัญเช่นเดียวกัน  ซึ่งปัจจุบันนี้มีระบบไฟแสงสว่างในการตกแต่งอยู่หลายแบบซึ่งผู้ออกแบบและเจ้าของบ้านก็สามารถเลือกไฟให้เหมาะสมกับการตกแต่งได้

TIP : การเลือกใช้สีทาฝ้าเพดานควรเลือกสีชนิดด้าน (Matt Colour) เนื่องจากสีชนิดด้านจะไม่ก่อให้เกิดการสะท้อนของแสง ช่วยกลืนการฉาบรอยต่อแผ่นได้ดี มองเห็นฝืนฝ้าเป็นเนื้อเดียวกัน

ที่มา: นิตยสาร LifeandHome ฉบับที่ 195 ประจำเดือนมีนาคม 2554

         http://www.scgexperience.co.th

สอบถามเพิ่มเติม หรือฝากรายละเอียดได้ที่

โทร 02-691-0640, 02-107-1307, 089-111-3213, 095-0013545

ID LINE 1 : 0950013545

ID LINE 2 : 0926428251

EMAIL : stalucon9@hotmail.com